|||

The WeChat Economy - มองเทรนด์ Tech Startup” อนาคต จากการใช้ WeChat” ในประเทศจีน

ปี 2016 นับเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ของนายแจ๊ค หม่า เจ้าของเครือบริษัทอาลีบาบา (Alibaba) ยักษ์ใหญ่แห่งอีคอมเมิร์ซจากประเทศจีน ด้วยบุคลิกที่สนุกนาน การออกสื่อเป็นจำนวนมาก และคำพูดที่เข้าใจง่ายแต่คมคาย ทำให้คนทั่วโลกเริ่มรู้จักและเห็นความยิ่งใหญ่ของเครือบริษัท Alibaba ที่แทบจะผูกขาดการค้าขายออนไลน์ทั้งขายส่งและขายปลีกของประเทศจีนเอาไว้ จนทำให้นายแจ๊ค หม่าได้รับการประเมิณว่าเป็นบุคคลที่มีมูลค่าสูงถึง $22.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดอันดับสองของผู้ที่มีมูลค่าสุดในประเทศจีนในปีคศ. 2015

แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเครือบริษัท Alibaba จะดูยิ่งใหญ่และเป็นที่รู้จักจากคนภายนอกประเทศจีน แต่ความจริงแล้ว เครือ Alibaba ไม่ใช่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในประเทศจีนเพียงบริษัทเดียวแต่อย่างใด แต่กลับมีเครือบริษัท “Tencent” ที่มีนาย หม่า หัวเติง เป็นผู้ก่อตั้งและดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่แม้จะมีบุคลิกสุขุมและเก็บตัวเมื่อเทียบกับแจ๊ค หม่าที่กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ตัวเขาเองก็มีมูลค่าสูงถึง $16.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ไม่แพ้นายแจ๊ค หม่าเลยทีเดียว

ทาง Tencent นั้นจะทำธุรกิจที่แตกต่างจากเครือ Alibaba ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการผลิตแพลตฟอร์มสำหรับธุรกิจอย่าง Taobao, Aliexpress ฯลฯ ที่เป็นช่องทางที่ทำให้ธุรกิจในประเทศจีนสามารถนำสินค้าและบริการของตนเองมาขายให้กับคนทั่วโลกได้ แต่ทาง Tencent จะเน้นผลิตภัณฑ์ทางด้านการบันเทิงและการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างสื่อบันเทิงอย่างเกมออนไลน์ โดยมีหุ้นอยู่ในบริษัทชื่อดังอย่าง Supercell, Epic Games, Netmarble, Kakao, Activision Blizzard ฯลฯ มากน้อยต่างกันไป โดยในประเทศไทยเอง ทาง Tencent ก็ได้เข้ามาถือหุ้นบริษัทที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอย่าง Sanook ที่พึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น เทนเซนต์ ประเทศไทย เมื่อไม่นานมานี้ พร้อมกับเข้ามาถือหุ้นใน Ookbee” ซึ่งสองบริษัทนี้ก็มาพร้อมกับแพลตฟอร์มมีเดียอื่นๆอย่าง Joox, Fungjai, Storylog, Fictionlog อีกด้วย

แต่นอกจากสื่อและเกมออนไลน์แล้ว ทาง Tencent เองก็มีแพลตฟอร์มในณูปแบบของแอปพลิเคชันแชทอย่าง QQ และ WeChat” โดยเฉพาะ “WeChat” ที่กลายเป็นแอปพลิเคชันอันดับหนึ่งของคนจีน ด้วยจำนวนผู้ใช้กว่า 846 ล้านคนในทุกๆเดือน จนทำให้ WeChat กลายเป็นแอปพลิเคชันแชทที่มีจำนวนผู้ใช้มากสุดอันดับสามของโลกตามหลัง WhatsApp และ Facebook Messenger เป็นที่เรียบร้อย

WeChat แพลตฟอร์มของคนจีน ที่กลายเป็นตัวอย่างให้คนอื่นลอกเลียน

สิ่งที่ทำให้ WeChat” เป็นแอปพลิเคชันสำคัญของ Tencent” นั้นไม่ใช่เพียงจำนวนผู้ใช้ แต่ เพราะการพัฒนาที่ชาญฉลาดของทาง Tencent ที่ทำให้ WeChat” พัฒนาจากการเป็นเพียงแอปพลิเคชันแชทจนกลายเป็นศูนย์กลางที่ประชาชนชาวจีนทุกคนตั้งแต่มหาเศรษฐียันประชาชนหาเช้ากินค่ำใช้ในทั้งการสื่อสารและการค้าขายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวัน ผ่านการผสานการเข้าถึงบริการทั้งในโลกออฟไลน์และออนไลน์ให้กลายเป็นเรื่องเดียวกัน โดยไม่ทำให้แอปพลิเคชันมีเมนูหรือการใช้งานที่ยุ่งยากเกินกว่าคนทั่วไปจะเข้าใจการใช้งานได้แต่อย่างใด จนในปัจจุบันเราจะได้เห็นความสามารถต่างๆของ WeChat” ได้รับการพัฒนาและเปิดตัวอยู่ในแอปพลิเคชันแชทอื่นๆทั่วโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จนเรียกได้ว่า หากคุณอยากรู้ว่าแอปพลิเคชันแชทต่างๆทั่วโลกจะพัฒนาไปทิศทางใด้ WeChat” เนี่ยแหละ คือมาตรฐานและเป้าหมายที่ทุกคนกำลังพุ่งไป

เชื่อมบริการ ด้วย QR Code”

ทันทีที่คุณเดินทางมาถึงประเทศจีน คุณจะได้เห็นความแพร่หลายของ WeChat” ไม่ใช่เพียงด้วยการเห็นคนเดินกดใช้ผ่านโทรศัพท์มือถือ แต่ผ่านการมีป้าย QR Code” ที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมรูปโลโก้หรือหน้าของบุคคลแปะอยู่ในเกือบทุกสถานที่ที่คุณผ่าน

QR Code” นี้ คือเครื่องมือและกลยุทธ์สำคัญของ WeChat” ในการทำให้การผสมผสานโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยการ และทำให้เข้าถึงบริการต่างๆในแอปฯ WeChat” นั้นไม่มีความยุ่งยากจนเกินไป เพราะเพียงแค่คุณแสกน QR Code” ต่างๆเหล่านั้นด้วยแอปพลิเคชัน WeChat” ในโทรศัพท์ของคุณ คุณก็จะสามารถเข้าถึงบริการที่คุณต้องการเวลานั้นได้ทันที ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นการเพิ่มบัญชีผู้ใช้ที่อยู่ในรูป QR Code” เหล่านั้นเพื่อทำการสื่อสารหรือติดตามร้านค้าที่ให้บริการ การเข้าถึงเมนูอาหาร การใช้งานแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้อง หรือแม้กระทั่งการชำระค่าบริการที่คุณพึ่งใช้ไป ด้วยบริการ “WeChat Pay” เป็นต้น

รูปภาพจาก Techinasia

ชำระเงินได้ทุกที่ ด้วย WeChat Pay

ในประเทศไทย เราจะเคยได้ยินข่าวการเข้ามาของ AliPay” บริการรับและชำระเงินของของเครือบริษัท Alibaba ของนายแจ๊ค หม่า และผมเองก็เคยได้เขียนถึงการแพร่หลายของ AliPay ไปยังประเทศทั่วโลกผ่านการควบรวมกิจการในแต่ละประเทศ และการเจรจากับรัฐบาลและธุรกิจในประเทศต่างๆเพื่อให้คนจีนมีความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอยในแต่ละประเทศนั้นๆ จนเราอาจเข้าใจไปว่า AliPay” คือบริการชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดเพียงรายเดียวในประเทศจีน

แต่แท้จริงแล้วแม้คนจะนิยมใช้ AliPay” ในการซื้อขายและทำธุรกิจกับร้านค้าในโลกออนไลน์ แต่ WeChat Pay” หรือ Tenpay” คือวิธีการชำระเงินที่คนนิยมใช้กันทั่วไปในชีวิตประจำวันจนเรียกได้ว่าได้เข้ามาทดแทนการใช้เงินสดในชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว ทำให้การทำธุรกิจในประเทศจีนนั้นมีความสะดวก คล่องตัว และปลอดภัยกว่าการทำธุรกิจด้วยเงินสดแบบในสมัยก่อนเป็นอย่างมาก และทำให้ WeChat Pay” ชิงส่วนแบ่งตลาดมาประมาณ 37% ในปี คศ. 2016 ตีตื้น AliPay จาก 16% ในปลายปี คศ. 2015 จนกลายเป็นเครื่องมือสร้างกำไรชิ้นสำคัญของ Tencent ที่มีผู้ใช้งาน WeChat” อยู่ทั้งประเทศจีนไปแล้ว

รูปภาพจาก Tenpay

WeChat Stores และ Mini-apps ร้านค้าดิจิตอลที่ฉลาดกว่าเว็บไซท์

ด้วยจำนวนผู้ใช้ของ WeChat” ที่แซงหน้าแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์คและแอปพลิเคชันแชทอื่นๆในประเทศจีนอย่าง RenRen, Weibo, หรือ QQ ของทาง Tencent เอง ทำให้ อินเทอร์เน็ต สำหรับคนจีนส่วนใหญ่แล้ว ไม่มีคำว่า เว็บไซท์ แต่มีเพียง WeChat” เพียงเท่านั้น

จึงเป็นช่องทางที่ทำให้ WeChat” พัฒนาฟีเจอร์ WeChat Store” ขึ้นมาสำหรับบัญชีธุรกิจให้สามารถเปิดร้านค้าดิจิตอลเพื่อทำการซื้อขายและชำระเงินได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านเว็บไซท์ตัวกลางอย่าง T-mall, Taobao ของคู่แข่งหรือแม้กระทั่ง JD ที่ทาง Tencent เองก็ถือหุ้นอยู่ส่วนหนึ่งแต่อย่างใด โดย Store เหล่านี้มีหลายรูปแบบ ทั้งสำหรับขายสินค้าสำเร็จรูป เสื้อผ้า บริการ อาหาร ฯลฯ

รูปภาพจาก Walkthechat

แต่นอกจาก WeChat Store แล้ว ในปีที่ผ่านมา ทาง WeChat ได้ทำการเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ที่สำคัญที่เรียกว่า WeChat Mini-apps” ที่เปิดให้นักพัฒนาสามารถพัฒนา แอปพลิเคชันขนาดเล็ก ที่อาศัยอยู่ในแอปพลิเคชันของ WeChat เองโดยตรงโดยผู้ใช้ไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่างหาก ให้ผู้ใช้เข้าถึงได้โดยมีความสามารถที่มากกว่าเว็บไซท์ทั่วไป

เรียกได้ว่า WeChat ได้ทำตัวเป็น App Store” ของตัวเอง ทำให้คนสามารถปล่อยแอปพลิเคชันได้โดยไม่ต้องผ่านผู้คุม App Store” อย่าง Apple บนระบบปฏิบัติการ iOS” อย่าง iPhone, iPad หรือ Google ที่มี Google Play” บนระบบของ Android ด้วยซ้ำ

ผสมผสานโลก Offline และ Online

การที่ WeChat ได้รับความนิยมและมีการพัฒนาแพลตฟอร์มมาอย่างชาญฉลาดแบบนี้ ทำให้การใช้ชีวิตในประเทศจีน ได้กลายเป็นเรื่อง ไฮเทค ในสายตาของคนภายนอก เพราะคนทุกเพศทุกวัยทุกฐานะนั้นต่างใช้ โทรศัพท์สมาร์ทโฟน” เป็นเครื่องมือในการติดต่อและทำธุรกรรมกันอย่างตลอดเวลา

ทุกร้านค้าที่คุณเดิน ตั้งแต่ของชำร่วยไปยันบริการโรงพิมพ์ จะมีรหัส QR Code เพื่อให้คุณสามารถติดตามข่าวสารจากร้านค้านั้นๆได้ในโลกดิจิตอลโดยไม่ต้องกลับมาที่ร้านอีกครั้ง โดยร้านค้าแต่ละร้านจะทำการถ่ายรูปสินค้าใหม่ๆและโพสท์ลงไปใน Timeline” หรือห้องแชทกลุ่มของตนเอง และหากเราสนใจซื้อ ก็สามารถสอบถามหรือสั่งจองได้ทันทีโดยทำการชำระผ่าน WeChat เพื่อยืนยันการซื้อขาย

หากคุณเดินเข้าร้านอาหาร คุณอาจพบว่าร้านเหล่านั้นจะไม่ยอมให้เมนูอาหารแบบที่พิมพ์ออกมาแล้วให้ แต่จะให้คุณแสกน QR Code เพื่อเข้าถึงเมนูอาหารใน WeChat Store ของเขา เพื่อทำการกดสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชันและส่งเข้าครัวเขาได้เลยทันทีพร้อมกับทำให้เรากลายเป็นฐานผู้ติดตามร้านนี้ไปโดยปริยาย แถมมีช่องทางในการสั่งซื้ออาหารจากร้านค้านี้ให้ไปส่งถึงบ้านในครั้งถัดไป ผ่านแอปพลิเคชันรายการอาหารตัวเดียวกัน

บริการเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงลูกเล่นของร้านค้าระดับสูง และจะไม่ใช่เรื่องแปลกเลย หากคุณเดินเข้าไปกินร้านก๋วยเตี๋ยวรถเข็นข้างทาง แล้วเห็นคนงานที่หาเช้ากินค่ำจ่ายค่าอาหารด้วย WeChat เพราะมันได้กลายเป็นมาตรฐานของการธุรกรรมระหว่างกันในประเทศจีนไปแล้ว

รูปภาพจาก Matthew Brennan และ Chinachannel.co

และการที่เครื่องมือดิจิตอลอย่าง WeChat” เป็นศูนย์กลางในการทำธุรกรรมระหว่างกันนี้ ก็ได้ทำให้เกิดการผสานระหว่างโลกออฟไลน์และออนไลน์ได้อย่างแท้จริง โดยนอกจากตัวอย่างของร้านอาหารที่ใช้แอปพลิเคชันสั่งอาหารมาทดแทนเมนูการสั่งทั้งภายในร้านและสั่งกลับบ้าน ยังมีตัวอย่างอย่างเทรนด์ Startup ที่มาแรงที่สุดในประเทศจีนในปีที่ผ่านมาอย่างบริการ “เช่าจักรยาน อย่าง Mobike และ Ofo ที่จะมีการวางจักรยานไฟฟ้าสีสรรค์สดใสของบริษัทไว้ตามที่ต่างๆในตัวเมืองเป็นจำนวนมาก เพื่อให้ใครก็ได้สามารถหยิบมันขึ้นมาใช้ โดยทำการแสกน QR Code ที่ติดอยู่กับตัวจักรยานเพื่อปลดล็อคการถีบ เสร็จแล้วก็ขับมันไปยังจุดหมายใดๆก็ได้ด้วยตนเอง แล้วทำการแสกน QR Code อีกครั้งหรือกดปุ่มเลิกใช้บริการเพื่อให้แอปพลิเคชันทำการคำนวณระยะทางที่ใช้ไป เก็บชำระเงินด้วย WeChat Pay แล้ววางทิ้งไว้เพื่อให้คนถัดไปมาใช้ต่อโดยไม่ต้องเอาไปคืน โดยคนถัดไปจะสามารถหาจักรยานนี้เจอได้จากระบบ GPS นั่นเอง

ทั้งหมดนี้สามารถทำได้ผ่านแอป WeChat เพียงอย่างเดียวโดยไม่ต้องโหลดแอปพลิเคชันใดๆเพิ่มให้ยุ่งยาก ด้วยระบบ Mini-apps ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วนั่นเอง

อนาคตของ WeChat และโลกดิจิตอลทั่วโลก

จะเห็นได้ว่า การแพร่หลายและการพัฒนาที่ชาญฉลาดของ WeChat” นั้น ได้ทำให้รูปแบบการดำเนินชีวิตในประเทศจีนเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

ความท้าทายของ WeChat” ในขั้นต่อไป คือการเลือกสนามรบถัดไปของตนเอง ว่าจะเป็นการทำตลาด Mini-apps” เพื่อตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางในการทำธุรกรรมระหว่างบุคคลผ่านช่องทางดิจิตอล การขยายฐานผู้ใช้นอกประเทศจีนที่เคยพยายามแต่ต้องยอมแพ้มาแล้วผ่านแคมเปญที่ลงทุนจ้างนักเตะระดับโลกอย่าง Lionel Messi มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือการรักษาฐานผู้ใช้จากคู่แข่งในประเทศเอง อย่างเครือบริษัท Alibaba ที่เคยพยายามทำแอปพลิเคชันแชทมาแข่งก็ต้องยอมถอย แต่เริ่มกลับมาสู้ด้วย AliPay ที่ครองตลาดการทำธุรกรรมกับบริษัทหรือซื้อขายออนไลน์ได้ และพยายามใช้กลยุทธ์การเป็นเครื่องมือการชำระเงินในการท่องเที่ยวต่างประเทศมาทำให้คนฝากเงินและการชำระเงินในชีวิตประจำวันผ่าน AliPay มากขึ้น

ทางฝั่งของ Mini-apps” เอง แม้แอปพลิเคชันเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้มีขนาดใหญ่ และเป็นเหมือนส่วนขยายของ WeChat เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการที่ต้องการได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็เป็นการท้าทายอำนาจเจ้าของแพลตฟอร์มอย่าง Google และ Apple เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ Apple ที่มีการตั้งกฏเกณฑ์ควบคุมแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการของตนเองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ “การซื้อขายในแอปพลิเคชัน หรือ In-app purchases” ที่ปกติแล้วจะต้องแบ่งรายได้ให้กับ Apple 15-30% ซึ่งทาง Apple เองก็พึ่งบังคับให้ทาง WeChat ปิดระบบการ ให้ทิป เงินผ่าน WeChat Pay ไป เพราะมองว่าเป็นการซื้อขายผ่านแอปพลิเคชันแต่กลับไม่มีการแบ่งเปอร์เซนต์ให้กับ Apple แต่อย่างใด สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้ชาวจีนจำนวนมากไปอย่างเรียบร้อยแล้วที่นิยมให้รางวัลผู้สร้างคอนเทนต์ที่โดดเด่น คล้ายกับการกดไลค์แต่ว่าให้เงินจริงๆ

จากการเติบโตของ WeChat” เราจะเห็นว่าระบบ Digital Payments” และ Chat Apps” ได้กลายเป็น เครื่องมือมาตรฐาน ใหม่ของทั้งการทำธุรกรรม และการเข้าถึงบริการและข้อมูลข่าวสารในโลกดิจิตอลไปแล้ว โดยเฉพาะในประเทศที่พึ่งเริ่มเข้าถึงอินเทอร์เน็คอย่างแพร่หลายในยุคของสมาร์ทโฟน

จึงเป็นที่น่าจับตามองว่าในประเทศไทยเอง ที่มีทั้งการผลักดันของ PromptPay จากภาครัฐบาล และระบบการชำระเงินจากภาคเอกชนอีกมากมายตั้งแต่ True Wallet, LINE Pay, AirPay ฯลฯ พร้อมกับแอปพลิเคชันแชทอย่าง LINE และ Facebook Messenger ว่าจะมีการพัฒนาไปด้านใด และใครจะเป็นผู้ครองตำแหน่งนี้เมื่อการใช้เทคโนโลยีแพร่หลายไปทั่วประเทศและเข้าถึงทุกคนอย่างแท้จริงครับ

–-

เลอทัด ศุภดิลก

กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซลสุกิ จำกัด

www.sellsuki.co.th

Up next การพลิกโฉม ”วิธีการซื้อ″ ด้วยนวัตกรรมจาก Amazon - How Amazon is Re-inventing How We Buy The Fundamentals of AI - Machine Learning, Neural Network, Deep Learning - พื้นฐานแนวคิดของ “AI” ในยุคปัจจุบัน
Latest posts GDPR คืออะไร และส่งผลกระทบอะไรต่อธุรกิจ “Fintech” คืออะไร? ตอนที่ 1 - M-Pesa ตัวอย่างความสำเร็จของระบบการเงินดิจิตอล The New Disuptive Technologies: 2018 & Beyond การปรับกลยุทธ์ครั้งยิ่งใหญ่ ครั้งใหม่ของ Facebook Startup Tech Trends 2018 - เมื่อเทรนด์ 2017 จะแพร่หลายในปี 2018 “HQ Trivia” - The Future of TV เกมฮิตใหม่ที่อาจเป็นตัวอย่างของรายการทีวีในอนาคต Facebook Ads vs. Google Ads การต่อสู้ระหว่าง “Search” กับ “Discovery” Just Jack - Annabel’s Dilemma Bitcoin คืออะไร และทำไมมันถึงได้รับความสนใจ วิธีเริ่มต้นแบบเล็กๆของเหล่า Startup Unicorn มูลค่าพันล้าน The Fundamentals of AI - Machine Learning, Neural Network, Deep Learning - พื้นฐานแนวคิดของ “AI” ในยุคปัจจุบัน The WeChat Economy - มองเทรนด์ “Tech Startup” อนาคต จากการใช้ “WeChat” ในประเทศจีน การพลิกโฉม ”วิธีการซื้อ″ ด้วยนวัตกรรมจาก Amazon - How Amazon is Re-inventing How We Buy AliPay - เครื่องมือครองโลกของ Jack Ma ที่คุณอาจคาดไม่ถึง - Jack Ma’s Strategy to Conquer the World ทิศทางการเติบโตของ ”ห้างออนไลน์″ ในประเทศไทย - The Future of Marketplaces in Thailand Digital Transformation : จากการบริโภค Product สู่ Service Fast Growing Silicon Valley Startups 2017 - เทรนด์ Startup จาก Silicon Valley ที่จะมาแรงในปี 2017 การปฏิวัติข่าวสารจากยุค Google สู่ Facebook Status Seekers เมื่อผู้บริโภคต้องการ “สถานะ” มากยิ่งกว่า “การแก้ปัญหา” The Different Types of Conversational Commerce Online to Offline 31 The Future of Apps Pirate Metrics for Startups (AARRR) The Rise of Chat Bots E-commerce Delivery in Thailand Conversational Commerce Solar Energy Startups Facebook Thailand Startup = การเติบโตที่รวดเร็ว (Growth) Startup Investment The Future of Messaging