|||

วิธีเริ่มต้นแบบเล็กๆของเหล่า Startup Unicorn มูลค่าพันล้าน

ในโลกของ Facebook, Instagram, LINE, Uber, Amazon, Alibaba และบริษัท Tech Startup ที่มีมูลค่ากว่าพันล้านเหรียญที่ถูกเรียกกันว่า Unicorns” เพราะเปรียบเสมือนสิ่งมีค่าที่หายาก เป็นธรรมดาที่จะมีผู้ประกอบการหลายมองโอกาสนี้เป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจจนอยากจะกระโดดเข้ามาจับตลาดใหญ่ๆด้วยไอเดียพันล้านของตนเอง

ประโยคที่มีไว้สร้างพลังและแรงจูงใจอย่าง Go big or go home” กลายเป็นประโยคปลุกใจให้ทุกคนฝันให้ไกลไปให้ถึง จนลืมไปว่าบริษัทที่ดูเหมือนจะดังข้ามคืนเหล่านั้นจริงๆแล้วใช้เวลาในการเติบโตมาเป็นสิบปีไม่แพ้กัน

และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คือในขณะที่มีใครหลายคนพยายามลอกเลียนแบบสิ่งที่บริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านั้นเป็นกันในปัจจุบันทั้งในเรื่องของรูปแบบบริการและการวางตัวทางการตลาด แต่จุดเริ่มต้นของแต่ละบริษัทที่ใหญ่โตเหล่านั้นล้วนแล้วแต่มีประวัติการเติบโตที่จับตลาดที่เล็กกว่าปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง

ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และหากใครอยากที่จะใหญ่เหมือนเหล่า Unicorn ที่เราเห็นในสื่อนั้น ต้องอย่าลืมไปดูจุดกำเนิดตอนที่เขายังพึ่งหัดเดินด้วยแล้วจะเห็นกลยุทธ์ที่เขาทุกคนต่างมีเหมือนกัน

ในบทความนี้ ผมจะขอยกตัวอย่างบริษัท Unicorn ที่เราคุ้นเคยกันมาเล่าให้ฟังกันนะครับ

Facebook - โซเชียลเน็ตเวิร์คที่ยอมให้มีคนใช้แค่ไม่กี่คน

ด้วยจำนวนผู้ใช้กว่า 2 พันล้านคนต่อเดือนและมูลค่ากว่า 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯในตลาดหลักทรัพย์ คงจะไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ว่า Facebook คือบริษัทโซเชียลเน็ตเวิร์คอันดับหนึ่งของโลก ที่สามารถทำให้โลกเราเล็กลงด้วยการเชื่อมทุกคนเข้าหากันในโลกดิจิตอล ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เปรียบเสมือนห้องนั่งเล่นที่มีทั้งเพื่อนสนิทมิตรสหายและข่าวที่เราสนใจอยู่ในนั้นในช่วงเวลาที่เราต้องการ

แต่ก่อนที่ Facebook จะเดินทางมาถึงจุดที่ทุกๆคนจะต้องถามหาว่า Facebook ของคุณชื่ออะไร” มากกว่าจะต้องถามว่า คุณมี Facebook ไหมนั้น” จุดเริ่มต้นของเขาไม่ใช่การเปิดให้ใครๆก็สามารถดาวน์โหลดและเริ่มใช้บริการของเขาได้จากทุกที่ทั่วโลก แต่กลับเป็นเพียงเสมือน หนังสือรุ่น” ของนักศึกษาปัจจุบันของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดในสหรัฐฯอเมริกาที่นายมาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและ CEO คนปัจจุบันได้ศึกษาอยู่ในตอนนั้น

รูปภาพ Facebook ในปี 2004 จาก Shareaholic

การที่ Facebook เป็นเครือข่ายเฉพาะมหาวิทยาลัยในตอนแรกนั้น ทำให้บริษัทไม่ต้องหว่านวิธีการทำการตลาดไปอย่างกระจัดกระจาย และทำให้การแพร่หลายของการใช้งานเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เพราะคนทุกคนในมหาวิทยาลัยจะชวนเพื่อนของตัวเองในมหาวิทยาลัยมาใช้ และเมื่อเขาได้มาลองใช้แล้ว ก็จะสามารถพบเจอเพื่อนของตัวเองได้อย่างง่ายดาย ทำให้การใช้งานนั้นสนุกและมีคุณค่าในทันที ต่างจากโซเชียลเน็ตเวิร์คที่เริ่มใช้งานแล้วไม่มีใครให้คุยด้วยเลย และฟีเจอร์ต่างๆอย่างการทำให้เราสามารถเข้าไปดูรูปต่างๆของคนในมหาวิทยาลัยที่เรารู้จักหรือแอบชื่นชอบก็เกิดขึ้นเพื่อรองรับนิสัยของนักศึกษามหาวิทยาลัยนั่นเอง

หลังจากที่ Facebook ประสบความสำเร็จในมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดแล้ว ก็ได้นำกลยุทธ์เดียวกันไปแพร่หลายในมหาวิทยาลัยอื่นๆในประเทศ จนมีฐานผู้ใช้หลักเป็นเด็กมหาวิทยาลัยเจ้าสำคัญๆในสหรัฐฯอเมริกา จนเมื่อวันที่เขาเปิดให้คนทั่วไปสามารถเข้ามาใช้ได้ ก็จะพบคนที่ใช้อยู่แล้วมากมายจากฐานเด็กมหาวิทยาลัยนี้นั่นเอง

Amazon - ร้านออนไลน์ที่ขายแต่หนังสือที่ขายไม่ดี

ในปี 1994 ที่สหรัฐฯอเมริกา นายเจฟ เบซอส นักการเงินจากบริษัท D.E. Shaw & Co. ได้มีไอเดียว่าอยากจะเปิดร้านค้าออนไลน์ผ่านเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า อินเทอร์เน็ต” ในขณะนั้น เขาจึงได้ลาออกจากงานมั่นคงและรายได้ดีของตนเองในตอนนั้นเพื่อมาสร้างเว็บไซท์ที่ชื่อ “Amazon.com” จนกลายมาเป็นบริษัทค้าขายข้ามชาติอันดับหนึ่งของโลกด้วยมูลค่ากว่า 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ และการขนานนามว่า The Everything Store” หรือ “ร้านที่ขายทุกอย่าง

อย่างไรก็ตาม แม้นายเจฟ เบซอสจะมีฝันที่ยิ่งใหญ่ตั้งแต่แรก แต่จุดเริ่มต้นของ Amazon นั้นไม่ใช่การนำสินค้าที่หลากหลายมาขายในเว็บไซท์ของตนเอง แต่กลับขายเฉพาะ หนังสือ” เท่านั้น และที่สำคัญ คือมักจะเป็นหนังสือที่ ขายไม่ดี ด้วยซ้ำ เพราะได้รับการต่อต้านเรื่องสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายหนังสือขายดีจากร้านค้าออฟไลน์เจ้าใหญ่ๆในปัจจุบันตอนนั้น

แต่การมีจำนวน หนังสือขายดี จำกัดสู้คู่แข่งที่มาก่อนนั้นไม่เคยทำให้ Amazon ท้อแท้ แต่กลับประกาศตนเองว่าเป็น The World’s Biggest Book Store” หรือ “ร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยใช้กลยุทธ์การมีจำนวนหนังสือให้เยอะที่สุด เพราะ Amazon มีข้อได้เปรียบจากการที่ตนเองเป็นร้านออนไลน์ ทำให้ไม่มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนสินค้าที่ตนเองสามารถนำเสนอขายให้กับผู้ซื้อได้ ต่างกับร้านค้าออฟไลน์ที่แม้จะสามารถมอบสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคได้เลย แต่ก็มีพื้นที่จำกัดทั้งเรื่องการเก็บและการวางสินค้าบนชั้นแสดงสินค้า จึงเลือกเก็บเฉพาะหนังสือขายดีเท่านั้น

ดังนั้น Amazon จึงเลือกที่จะยอมขายหนังสือที่ในแต่ละเมืองอาจจะมีคนอยากซื้อเพียงไม่กี่สิบคน แต่หากรวมทั่วประเทศแล้วอาจกลายเป็นหลักพันจนสามารถขายได้อย่างคุ้มค่า และเมื่อนำยอดขายของหนังสือยอดไม่สูงเหล่านี้มารวมกัน ปรากฏว่ายอดขายรวมนั้นสูงกว่ายอดขายจากหนังสือขายดีอย่างเดียวด้วยซ้ำ

กลยุทธ์นี้ได้ถูกนำมาเรียกว่าเป็นกลยุทธ์ Long Tail” เพราะเป็นการรวบรวมออเดอร์จากสินค้า หางแถว เข้ามารวมกัน เพื่อแข่งกับร้านค้าออฟไลน์ที่จำเป็นจะต้องขายแต่หนังสือ หัวแถว ไม่กี่เล่มเท่านั้น และกลยุทธืนี้ก็กลายเป็นสิ่งที่สร้างข้อได้เปรียบให้กับแพลตฟอร์มมีเดียในยุคถัดไปอย่าง iTunes, Spotify ที่ให้บริการเพลงออนไลน์ หรือ Netflix ที่โด่งดังเรื่องภาพยนตร์ออนไลน์

และเมื่อการซื้อขายหนังสืออนไลน์ผ่าน Amazon แพร่หลายไปทั่วประเทศแล้ว Amazon จึงค่อยๆเปิดตัวกลุ่มสินค้าใหม่ๆทีละกลุ่ม ทีละแบรนด์ จนกลายเป็นยักษ์ใหญ่ข้ามชาติในปัจจุบัน

The Long Tail” โดยนาย Chris Anderson

Airbnb - บริการหาที่พักตามห้องเหลือๆของบ้านคนอื่น

Airbnb มีชื่อเสียงจากการเป็นที่ให้บริการที่พักที่ไม่ได้หาได้ทั่วไป แต่กลับมีราคาที่มักจะถูกหรือไม่ได้แพงไปกว่าการพักในโรงแรมเลย จนสามารถมีจำนวนห้องให้บริการได้มากกว่าเครือโรงแรมใหญ่ๆทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วโดยตนเองไม่จำเป็นต้องสร้างตึกที่พักเองแต่อย่างใด ผ่านการเปิดให้ใครก็ได้ที่ห้องหรือบ้านสามารถนำมันมาปล่อยให้เป็นที่พักในเว็บไซท์ของเขาเองได้ ทำให้มีบ้านพักตากอากาศหรือคอนโดที่ซื้อไว้เพื่อการลงทุนถูกนำมาปล่อยเป็นที่พักไว้บนเว็บไซท์นี้ โดยที่คนปล่อยไม่จำเป็นต้องลงทุนสร้างโรงแรมขึ้นมาเช่นเดียวกัน และหลังจากที่ Airbnb ได้รับการก่อตั้งในปี 2008 ปัจจุบันก็ได้รับการลงทุนจนทำให้บริษัทมีมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปเรียบร้อยแล้ว

แต่แม้ในกรณีของ Airbnb นั้น จะไม่ได้มีการเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการมากนัก แต่จุดเริ่มต้นเขาอาจเรียกได้ว่าเล็กที่สุดในบรรดาเหล่า Unicorn ด้วยซ้ำ เพราะในตอนแรกนั้นกลุ่มผู้ก่อตั้งนั้นเพียงเห็นว่าคอนเสิร์ตที่จัดอยู่ในเมืองเขานั้นมีกทำให้มีที่พักในโรงแรมไม่พอ เขาจึงมีไอเดียว่าเขาน่าจะนำเตียง airbed” หรือ เตียงลม” มาเป่าไว้ในหอพักตัวเองเพื่อให้แขกมาพักได้ พร้อมจดเว็บไซท์ชื่อ airbedandbreakfast.com” ขึ้นมาเพื่อหาลูกค้า แต่ปรากฏว่าเว็บไซท์ที่เขาทำนั้นประสบความสำเร็จจนเขามีไอเดียที่จะนำมันมาขยายต่อโดยเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชั้นประหยัดเหล่านี้นี่เอง

และสิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้น คือ Airbnb ในปัจจุบันไม่ได้จบตัวเองอยู่ที่เพียงผู้ให้บริการที่พัก แต่มองตนเองเป็นผู้ให้บริการ ประสบการณ์ การท่องเที่ยวมากกว่า เข้ากับลักษณะของฐานลูกค้ากลุ่มแรกของเขาที่ไม่ได้ชอบพักคอนโดที่เหมือนโรงแรม แต่อยากพักที่พิเศษๆที่จะมีเจ้าของบ้านอยู่ห้องข้างๆคอยพูดคุยและแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวให้อีกด้วย จนเปิดบริการ Local Guide” ให้คนในท้องถิ่นเสนอ ทัวร์ พิเศษๆมาพร้อมกับที่พักอีกด้วย

เรียกได้ว่า Airbnb เริ่มต้นโดยจับตลาดที่ผู้ให้บริการเดิมมองข้าม แต่กลับสามารถนำมันมาสร้างกำไร และต่อยอดไปยังประสบการณ์ใหม่ๆที่ผู้เล่นเดิมทั้งกลุ่มออฟไลน์และออนไลน์ไม่เคยมองถึงมาก่อนเลยด้วยซ้ำ

Niche” is the New Mass”

ในบทความนี้ผมยกตัวอย่างมาเพียงสามบริษัทใหญ่ แต่หากเราดูประวัติของบริษัทอื่นๆแล้ว จะเห็นรากฐานการเริ่มต้นที่เจาะกลุ่มความต้องการหรือพฤติกรรมอะไรบางอย่างที่มัน Niche” จนคนที่ครองตลาดอยู่มองข้าม จนมีรากฐานของตัวเองทั้งเรื่องฐานลูกค้าและระบบการให้บริการ เพื่อพร้อมขยายไปยังกลุ่มถัดไปหรือกลุ่มใหญ่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Uber ที่เริ่มต้นด้วยความคิดเพียงว่า “อยากเรียกรถในเมืองซาน ฟรานซิสโกได้ทุกเวลา เพราะมีรถแท็กซี่ไม่พอให้บริการ หรือคู่แข่งในภูมิภาคนี้อย่าง Grab Taxi ที่จับเฉพาะตลาด แท็กซี่” อย่างเดียวก่อนแทนที่จะเล่นเรื่องรถของใครก็ได้ในทันทีจนมีฐานของ คนเรียกรถ เพื่อมาแข่งกับ Uber เอง

เรียกได้ว่าแม้เราจะมีฝันที่ยิ่งใหญ่ แต่หากไม่เริ่มเล็กๆก็จะไปไม่ถึงจุดนั้นก็เป็นได้ครับ

–-

เลอทัด ศุภดิลก

กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซลสุกิ จำกัด

www.sellsuki.co.th

Up next The Fundamentals of AI - Machine Learning, Neural Network, Deep Learning - พื้นฐานแนวคิดของ “AI” ในยุคปัจจุบัน Bitcoin คืออะไร และทำไมมันถึงได้รับความสนใจ
Latest posts GDPR คืออะไร และส่งผลกระทบอะไรต่อธุรกิจ “Fintech” คืออะไร? ตอนที่ 1 - M-Pesa ตัวอย่างความสำเร็จของระบบการเงินดิจิตอล The New Disuptive Technologies: 2018 & Beyond การปรับกลยุทธ์ครั้งยิ่งใหญ่ ครั้งใหม่ของ Facebook Startup Tech Trends 2018 - เมื่อเทรนด์ 2017 จะแพร่หลายในปี 2018 “HQ Trivia” - The Future of TV เกมฮิตใหม่ที่อาจเป็นตัวอย่างของรายการทีวีในอนาคต Facebook Ads vs. Google Ads การต่อสู้ระหว่าง “Search” กับ “Discovery” Just Jack - Annabel’s Dilemma Bitcoin คืออะไร และทำไมมันถึงได้รับความสนใจ วิธีเริ่มต้นแบบเล็กๆของเหล่า Startup Unicorn มูลค่าพันล้าน The Fundamentals of AI - Machine Learning, Neural Network, Deep Learning - พื้นฐานแนวคิดของ “AI” ในยุคปัจจุบัน The WeChat Economy - มองเทรนด์ “Tech Startup” อนาคต จากการใช้ “WeChat” ในประเทศจีน การพลิกโฉม ”วิธีการซื้อ″ ด้วยนวัตกรรมจาก Amazon - How Amazon is Re-inventing How We Buy AliPay - เครื่องมือครองโลกของ Jack Ma ที่คุณอาจคาดไม่ถึง - Jack Ma’s Strategy to Conquer the World ทิศทางการเติบโตของ ”ห้างออนไลน์″ ในประเทศไทย - The Future of Marketplaces in Thailand Digital Transformation : จากการบริโภค Product สู่ Service Fast Growing Silicon Valley Startups 2017 - เทรนด์ Startup จาก Silicon Valley ที่จะมาแรงในปี 2017 การปฏิวัติข่าวสารจากยุค Google สู่ Facebook Status Seekers เมื่อผู้บริโภคต้องการ “สถานะ” มากยิ่งกว่า “การแก้ปัญหา” The Different Types of Conversational Commerce Online to Offline 31 The Future of Apps Pirate Metrics for Startups (AARRR) The Rise of Chat Bots E-commerce Delivery in Thailand Conversational Commerce Solar Energy Startups Facebook Thailand Startup = การเติบโตที่รวดเร็ว (Growth) Startup Investment The Future of Messaging