Sports Jargons in Business
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่คลั่งกีฬาฟุตบอล และในหลายๆครั้งเราก็จะนำคำพูดจากกีฬาฟุตบอลมาใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น “วันนี้ ฉันโดนมัน สับขาหลอก จนหลงเชื่อไปผิดๆจนได้” หรือ “เขาทำผิดไป เต็มประตู เลย”
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกนักที่ในภาษาอังกฤษที่เราใช้ในการสื่อสารธุรกิจจะมีภาษาจากกีฬาเข้ามาปนอยู่เช่นกัน แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า เจ้าของภาษาอย่างประเทศสหรัฐอเมริกาที่นำภาษากีฬาเข้ามาปะปนนั้นดันนิยมกีฬาที่ไม่เหมือนชาวบ้านเขาอย่าง เบสบอล บาสเก็ตบอล หรือ ฮ็อกกี้ เนี่ยสิ จึงทำให้คนไทยอย่างเราๆเกิดอาการงงกันไปตามๆกันทุกครั้งที่ได้ยิน เรียกได้ว่า ปกติแค่ jargon หรือ slang ก็แปลกันตับแตกแล้ว นี่แปลเสร็จยังต้องมาทำความเข้าใจกฏกติกากีฬากันอีกทบหนึ่งอีก
ครั้งนี้ผมเลยถือโอกาสลองลิสท์ศัพท์กีฬาที่ได้กลายมาเป็นคำฮิตติดปากเป็น jargon ในธุรกิจกันมาอธิบายให้ฟังแล้วกันครับ
hit it out of the ballpark - คำว่า “ballpark” ในที่นี้หมายถึงสนามที่ใช้เล่นกีฬาเบสบอล ดังนั้นประโยคนี้จริงๆแล้วก็จะมีความหมายเหมือนกับ “hit a homerun” ที่หมายถึงการตีลูกเบสบอลออกไปได้นอกสนาม ซึ่งในกีฬาเบสบอลนั้น การตีโฮมรันถือเป็นการตีที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้ เมื่อตีแล้วจะทำให้ทีมสามารถทำแต้มได้ทันที ดังนั้นเวลาฝรั่งเขาพูดว่าเรา “hit it out of the ballpark” เขาจึงหมายถึงว่าเราทำงานได้ดีมากระดับดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้แล้วนั่นเอง ไม่ได้หมายความว่าเราทำอะไรพลาดจนลูกออกไปนอกสนามแต่อย่างไรครับ
นอกจาก “out of the ballpark” แล้ว ประโยคที่มีความหมายไปในทางเดียวกันแต่มาจากกีฬาอื่นก็จะมี “touchdown” จากกีฬาอเมริกันฟุตบอลที่หมายถึงเวลานักกีฬาสามารถนำพาลูกไปยังดินแดนสุดท้ายของฝ่ายตรงข้ามเพื่อทำแต้ม “hole in one” จากกีฬากอล์ฟที่หมายถึงการที่สามารถเอาลูกลงหลุมได้ภายในการตีครั้งเดียว และ “slam dunk” จากกีฬาบาสเก็ตบอลอันหมายถึงการที่นักบาสเก็ตบอลสามารถกระโดดเอามือยัดลูกลงห่วงไปได้อย่างสะใจเป็นพิเศษนั่นเองครับ
who’s going to step up to the plate - หากใครได้ยินคำนี้ ไม่ต้องสงสัยว่าเขาต้องการให้ใครลุกขึ้นมายืนบนโต๊ะหรืออย่างไร เพราะ “plate” หรือ “จาน” ในที่นี้นั้นหมายถึง “ถาด” ที่วางอยู่บนพื้นในกีฬาเบสบอลนั่นเอง ถ้าเราเคยเห็นรูปหรือภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับกีฬาเบสบอล เราคงจะเคยเห็นว่าจะมีผู้เล่นถือไม้เบสบอลเพื่อรอตีลูกที่ฝ่ายตรงข้ามจะโยนเข้ามา ซึ่งถ้าเราสังเกตุดีๆ ตรงที่คนตียืนนั้น จะมีถาดห้าเหลี่ยมสีขาวๆวางอยู่บนพื้น ซึ่งถาดนี้แหละคือ “plate” ที่เขาพูดถึง การที่เขาถามว่า “who’s going to step up to the plate” จึงเป็นการถามว่า ใครจะเป็น “ผู้กล้า” ที่จะอาสาสมัครก้าวขึ้นมาท้าสู้กับคู่ต่อสู้นั่นเอง
Monday-Morning Quarterback - ประโยคนี้เป็นประโยคน่ารักๆจากกีฬาอเมริกันฟุตบอลที่จริงๆแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกับกีฬาสักทีเดียว แม้คำว่า “Quarterback” นี้จะหมายถึงผู้เล่นที่สำคัญที่สุดของแต่ละทีมที่มีหน้าที่ในการบัญชาการเกมรุกเพื่อทำแต้มให้กับทีมแล้ว แต่สิ่งที่ประโยคนี้ต้องการจะสื่อนี้เกี่ยวข้องกับการที่กีฬาอเมริกันฟุตบอลนั้นจะมีการเล่นในวันเสาร์อาทิตย์ ไม่ใช่วันจันทร์ แต่การที่เขาเรียกใครว่าเป็น “Monday-Morning Quarterback” นั้นไม่ใช่การบอกว่าเขาเป็นคนสาย แต่หมายถึงการที่คนเราเวลามองย้อนกลับไปจะสามารถหาข้อติหรือตักเตือนเหตุผลการผิดพลาดได้เสมอ แต่คนที่เก่งจริงคือคนที่มองออกตั้งแต่ก่อนเริ่มและสามารถแก้ปัญหาได้ต่างหาก ประโยคนี้จึงเป็นเหมือนการบั่นทอนว่า อืม คุณเก่งนะ บอกได้เป็นฉากๆเลยว่าควรจะทำอะไร และอะไรไม่ดี แต่ทำไมไม่อ่านเกมแบบนี้ตอนที่มันเกิดขึ้นอยู่ล่ะ
It’s basic blocking and tackling - ต่อเนื่องกับกีฬาอเมริกันฟุตบอล ด้วยความที่เป็นกีฬาที่เน้นการปะทะ หนึ่งในเทคนิกสำคัญในการเล่นเกมรุกและเกมรับคือตัวผู้เล่นแนวหน้าที่มีหน้าที่ในการกันผู้เล่นฝั่งตรงข้ามเพื่อเปิดทางให้ผู้เล่นฝั่งเดียวกัน ซึ่งเรียกว่า “blocking” แต่หากเราเป็นฝ่ายรับ เราก็จะมีหน้าที่ในการสกัดผู้เล่นฝั่งตรงข้ามที่ถือลูกบอลให้ล้มลงไป ซึ่งเรียกว่า “tackling” ดังนั้นหากได้ยินประโยคในที่นี้ ไม่ต้องตกใจว่าทำไมเขาถึงป่าเถื่อน คิดว่าใครๆก็จะสามารถไปใช้ความรุนแรงกับคนอื่นได้ แต่เขากำลังหมายถึงพื้นฐานในการเล่นเกมป้องกันกับการรุกเขตแดนในกีฬาอเมริกันฟุตบอลครับ
the ball’s in your court - เป็นอีกประโยคที่คงจะสร้างความงงไม่น้อยให้กับคนที่ไม่คุ้นกับกีฬาอเมริกัน ซึ่งในที่นี้เป็นกีฬาบาสเก็ตบอล แน่นอนครับ “court” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึง “ศาล” ที่ไหน แต่เป็นชื่อเรียกของ “สนามบาสเก็ตบอล” นั่นเอง ซึ่งภายในหนึ่ง “basketball court” นั้น จะมีการแบ่งครึ่งเป็นสองฝั่ง ซึ่งก็จะเรียกกันทับซ้อนอีกทีว่าเป็น “court” ของฝั่งเขากับ “court” ของฝั่งเรา ซึ่งในกีฬาบาสเก็ตบอล หากผู้เล่นไม่ทำการนำบอลเข้าฝั่งตรงข้ามแล้ว ก็จะทำแต้มได้ยากมาก นอกจากนี้ กีฬาบาสเก็ตบอลยังมีกฏกติกาบังคับมิให้ผู้เล่นครองลูกบาสอยู่ในฝั่งตัวเองได้นานเกินไปอีกด้วย เพื่อป้องกันทีมที่นำอยู่ถ่วงเวลา ดังนั้นประโยคนี้จึงสื่อถึงว่า ตอนนี้ลูกบาสอยู่กับคุณแล้ว คุณต้องทำการเดินเกมต่อแล้วล่ะ หากจะเทียบกับหมากรุกก็คงจะเหมือนเป็นการบอกว่า “เป็นตาคุณแล้ว” นั่นเอง
keep your eye on the ball - ประโยคนี้ใช้ได้กับกีฬาหลายประเภท เป็นคำสอนที่จะใช้บอกนักกีฬาให้คอยจับตามองดูบอลไว้ อย่าไปสนใจการเคลื่อนไหวส่วนอื่นของนักกีฬา เช่น ในกีฬาฟุตบอล นักบอลบางคนที่ขาไวจะชอบทำการ “สับขาหลอก” ในกีฬาอื่นๆก็เช่นกัน นักกีฬาที่ว่องไวมักจะพยายามหาทางตบตาคู่ต่อสู้ แต่ผู้เล่นฝั่งรับที่ดีจะมีสมาธิอยู่ที่การเคลื่อนไหวของลูกบอลเท่านั้น เพื่อรอสกัดได้ถูกจังหวะ ประโยคนี้จึงเป็นการเตือนให้จับตามองสิ่งที่สำคัญ อย่าไปสนใจอะไรที่อาจทำให้เราว่อกแว่กไปได้
they’re in a league of their own - ประโยคนี้ก็สามารถมาจากกีฬาได้หลายประเภทเช่นกัน แต่ประโยคนี้ไม่ได้เป็นการบอกว่าเขาไม่ใช่ “team player” ที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือแต่อย่างใด
ในกีฬาส่วนใหญ่นั้น จะมีฤดูกาลของการแข่ง โดยแต่ละทีมจะทำการแข่งกับทีมอื่นในกลุ่มของตัวเองจนครบทั้งในบ้านตัวเองและในบ้านของคู่ต่อสู้ หรือที่เรียกว่า “เหย้า” และ “เยือน” ซึ่งกลุ่มของทีมนี้จะเรียกว่าเป็น “league” โดยจัดลำดับจากผลของจำนวนแต้มที่ได้จากการแพ้ชนะในแต่ละครั้ง โดยในที่สุด เมื่อทุกทีมทำการแข่งขันจนจบทุกนัดแล้ว ผู้ที่มีแต้มสูงสุดจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งในกีฬาหลายๆประเภทนั้น จะมีระดับการแข่งขันหลายขั้น หรือมี “league” หลายระดับ โดยผู้ที่อยู่ลำดับต่ำสุดในแต่ละลีกมักจะ “ตกชั้น” มายังลีกที่ต่ำกว่า ส่วนทีมที่ชนะในลีกที่ระดับต่ำกว่าลีกสูงสุดก็จะได้รับการ “เลื่อนชั้น” ไปยังลีกระดับถัดไป
ทีนี้ ในบางครั้งในระหว่างฤดูกาลจะมีบางทีมที่สามารถทำแต้มได้เยอะมากจนคะแนนทิ้งห่างจากผู้ที่อยู่ในลำดับถัดไปอย่างสิ้่นเชิงแบบหมดความหวัง เรียกได้ว่าเขาเก่งกว่าคู่แข่งที่อยู่ใน league เดียวกันอย่างชัดเจน จึงกลายเป็นประโยคว่า “they’re in a league of their own” เพื่อบ่งบอกว่า เขาเก่งเกินกว่าที่จะอยู่ในระดับเดียวกับเรา เหมือนเขาเล่นอยู่ในลีกระดับของเขาเองที่มีแต่เขาเป็นผู้เล่น
Let’s put our game faces on - ประโยคสุดท้ายที่เกิดจากกีฬาหลายประเภท “Let’s put our game faces on” นี้ไม่ใช่ให้เราทำหน้าทะเล้นเพื่อเตรียมผ่อนคลายเล่นอะไรสนุกๆ แต่ตรงกันข้าม กลับเป็นการบอกให้เราทำสมาธิและจริงจังต่างหาก เปรียบเสมือนกับเราเป็นนักกีฬา ที่จะมีทั้งการซ้อมเพื่อเตรียมตัว และการแข่งในนัดแข่งขันจริง ซึ่งการแข่งขันนี้นี่เองที่ในภาษาอังกฤษสามารถเรียกได้ว่า “game” ได้เช่นเดียวกับเกมกดหรือเกมที่ในภาษาไทยมักจะนึกถึงการละเล่นทั่วไปที่เราคุ้นเคยกันมากกว่า
หมดพื้นที่แล้ว สำหรับคำศัพท์ในเดือนนี้ หากท่านผู้อ่านชอบบทความแนวนี้ ยังมีอีกหลายประโยคที่เป็นประโยคจากกีฬาแต่ถูกนำมาใช้ใน business setting ที่เราต้องเผชิญกันครับ
แต่สำหรับเดือนนี้.. let’s put our game faces on and hit that ball out of the ballpark!
–-
เลอทัด ศุภดิลก
e-mail: lertad@flyingcomma.comtwitter: @lertad