|||

8 Group Buying, Daily Deals, and Social Commerce

หลักการที่ว่าการซื้อเป็นจำนวนมากนั้นย่อมควรที่จะได้ราคาต่อหน่วยต่ำกว่าการซื้อเป็นจำนวนน้อยนั้น เป็นที่รู้จัก ยอมรับ และคาดหวังสำหรับคนทั่วไป ตั้งแต่ผู้บริโภคไปยังนักธุรกิจ ยิ่งซื้อเยอะก็ยิ่งเป็นการสร้างอำนาจต่อรองให้กับผู้ซื้อเยอะ เนื่องจากผู้ขายย่อมอยากขายให้มากเข้าไว้

จึงเกิดแนวคิดการรวมตัวกันในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สหกรณ์ สมาคมการค้า หรือการรวมตัวระดับประเทศ

โดยหลักการแล้ว แม้ผู้ขายจะลดราคาซึ่งทำให้ได้กำไรต่อหน่วยลดลง แต่โดยรวมก็เป็นกำไรอยู่ดี ส่วนผู้ซื้อก็ได้สิ่งที่ต้องการในราคาที่ถูกลง กลายเป็นภาวะ win-win”

แนวคิดนี้ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้อย่างชาญฉลาดในปัจจุบัน โดยใช้ประโยชน์จากอินเตอร์เน็ทที่สามารถทำให้เกิดการรวบรวมผู้คนเป็นกลุ่มได้อย่างรวดเร็วขึ้นมา จนเป็นรูปแบบการค้าที่ถูกเรียกว่า Group Buying”

บริษัทที่กำลังโด่งดังในเรื่องของ Group Buying” นั้นเป็นบริษัทจากอเมริกาชื่อ Groupon” ก่อตั้งโดยนาย Andrew Mason โดยใช้ไอเดียธุรกิจว่า บริษัท Groupon จะทำหน้าที่ในการเจรจากับร้านค้าและผู้ให้บริการต่างๆ เพื่อขอให้ยอมลดราคาพิเศษให้กับสินค้าหรือบริการของเขา หากบริษัทเขาสามารถหาลูกค้ามาใช้สิทธิ์ได้จำนวนหนึ่ง โดยเมื่อทาง Groupon ได้ข้อตกลงแล้ว ก็จะทำการโฆษณาส่วนลดพิเศษนี้บนเว็บไซท์และแอพพลิเคชันมือถือของเขา เพื่อให้ผู้ใช้สามารถซื้อสิทธิ์การใช้สิทธิส่วนลดดังกล่าว โดยส่วนลดนั้นจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อมีคนมาขอซื้อสิทธิการใช้ครบตามที่ Groupon ได้ทำการตกลงไว้กับร้านค้าแล้วเท่านั้น

สิทธิพิเศษและส่วนลดที่ Groupon หามาได้นั้น ต้องบอกว่า ลดเยอะจริงๆ ส่วนใหญ่แล้วจะลดไม่ต่ำกว่า 40% โดยร้านค้าผู้ที่เข้าร่วมนั้นยินดีที่จะลดราคาให้จำนวนมากแม้อาจเป็นการลดราคาที่ทำให้เกิดการขาดทุน เนื่องจากร้านค้ามองว่าเป็นการโฆษณาอย่างหนึ่งซึ่งทำให้มีลูกค้าใหม่ๆเข้ามาลองใช้สินค้าและบริการของเขา กลายเป็นช่องทางโฆษณาสำคัญสำหรับร้านที่คนอาจยังไม่รู้จักนัก

ในแง่ของผู้ใช้นั้น แน่นอนว่าได้รับความนิยมอย่างสูงครับ ด้วยการออกแบบที่สวยงาม โปรโมชันที่ถูกจริง รวมไปถึงโอกาสในการรู้จักและลองสินค้าและบริการใหม่ๆ ทำให้ทุกวันนี้ Groupon กลายเป็นบริษัทที่โตเร็วที่สุดบริษัทหนึ่ง โปรโมชันทุกอันที่ Groupon ออกมา ไม่มีคำว่าไม่ถึงยอดขั้นต่ำที่จะทำให้สิทธิพิเศษหรือส่วนลดนั้นไม่เกิดขึ้น Groupon ได้กำไรมากถึง 713.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯภายในปีที่สองของการดำเนินงาน และมีข่าวว่าได้ปฏิเสธการขอซื้อกิจการจาก Google ที่เสนอราคาไว้มากถึง 16 พันล้านเหรียญสหรัฐฯมาแล้ว โดยในปัจจุบัน Groupon กำลังเร่งการขยายสาขาไปยังเมืองทั่วโลก และมีข่าวว่าจะเข้ามาในประเทศไทยในไม่ช้านี้

แน่นอนว่าด้วยความสำเร็จของแนวคิดธุรกิจแบบ Group Buying นั้น ทำให้แนวคิดธุรกิจนี้ได้รับการนำไปใช้ตามประเทศต่างๆทั่วโลก โดยสำหรับประเทศไทยนั้น บริษัทที่ทำได้ติดตลาดที่สุดคือ Ensogo” ที่ปัจจุบันมีสาขาอยู่ในไทย ฟิลลิปปินส์ และอินโดนีเชีย ปัจจุบันเปิดให้บริการที่ กรุงเทพ เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น หัวหิน และ ชะอำ หรืออย่างเว็บ e-commerce ชื่อดังอย่าง weloveshopping.com ก็ได้ออกบริการ Groupbuy มาชนแล้วเหมือนกัน

หากมองในแง่ของผลกระทบต่อการค้าที่เกิดจากอินเตอร์เน็ท ผมคิดว่ามันมีความน่าสนใจในแง่ที่ว่า แต่ก่อนที่อินเตอร์เน็ทเป็นตัวเร่งให้ผู้ขายสามารถเผยแพร่ช่องทางการขายไปยังทุกที่ทั่วโลกได้ง่าย ผ่านการโฆษณาสินค้าและเว็บไซท์ลักษณะ e-commerce ที่เราคุ้นเคยอย่างเช่น Amazon, e-bay, Tarad.com นั้น เมื่อ Group Buy” ได้รับความนิยม กลายเป็นว่าบริษัทได้กลับมาเน้นในเรื่องของการเฉพาะเจาะจงพื้นที่ใดพื้นที่นึงเป็นพิเศษอีกครัง หรือที่ตอนนี้เรียกกันว่าการ target แบบ hyper local” ซึ่งหมายถึงแทนที่จะแพร่กำลังการตลาดและการขายไปแนวกว้าง แต่กลับมาเพ่งกำลังไปยังพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งแทน

อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากความสำเร็จของ Groupon และคอนเซปต์ของ “Group Buying” นั้น ก็คือการกลับมาฮิตของคอนเซปต์ที่เรียกว่า Social Commerce”

Social Commerce ในที่นี้หมายถึงการค้าขายบนอินเทอร์เน็ทหรือที่เรียกว่า e-commerce โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายญาติสนิทมิตรสหาย (social network) ที่แต่ละคนมีในโลกออนไลน์เพื่อใช้ประโยชน์ในการซื้อขาย ซึ่งจริงๆแล้วคอนเซปต์นี้มีมานานแล้ว ในรูปแบบของการเขียนวิพากย์วิจารณ์สินค้าและบริการเพื่อให้คนอื่นได้เห็น หรือการแนะนำสินค้าให้คนอื่น เช่นการ share ใน Facebook ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน หรือพูดอีกอย่างก็คือ Social Commerce คือการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้และผู้ซื้อสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของตนเองขึ้นมา (“user generated content”) เพื่อเป็นแรงจูงใจให้คนอื่นที่เข้ามาเห็นได้รู้สึกสบายใจที่จะซื้อมากขึ้น

การที่มนุษย์ออนไลน์ปัจจุบันนั้นต่างมี social network เป็นของตัวเอง หรืออย่างน้อยก็มีวิธีการสื่อสารไปยังคนรู้จักได้อย่างรวดเร็วผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ทแล้วนั้น เป็หนึ่งในปัจจัยความสำเร็จของ Group Buying” เนื่องจากสามารถชักจูงเพื่อนให้มาช่วยกันซื้อโปรโมชันที่ตนเองอยากได้ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้โปรโมชันนั้นมียอดคนซื้อถึงขั้นต่ำที่ได้ตกลงกับร้านค้าไว้ กลายเป็นผลประโยชน์ให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเห็นได้ว่านี่เป็นเพียงการใช้ประโยชน์จาก Social Network อย่างผิวเผินเท่านั้น

อีกหนึ่งรูปแบบการค้าที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันเช่นกัน แม้อาจจะไม่เท่ากับ Group Buying” แต่ก็ได้สร้างความสำเร็จมาให้กับหลายบริษัทแล้วนั่นก็คือการขายของแบบ Daily Deals” หรือ “Flash Sales” กล่าวคือ การขายของในระยะเวลาและจำนวนที่จะกัดมากๆอย่างเช่นวันต่อวัน โดยมีแนวคิดคล้าย Group Buying” ก็คือจะทำการเจรจากับผู้ขายสินค้าและบริการให้ลดราคาให้เป็นพิเศษให้กับสินค้าหรือบริการจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นเหือนกับการเปิดตลาดกับกลุ่มลูกค้าที่อาจไม่กล้าลองสินค้าหรือบริการที่ในราคาเต็ม

จะเห็นได้ว่าโลกของการค้านั้นกำลังเข้าสู่ภาวะการคิดค้นที่น่าตื่นเต้นอยู่ ด้วยความที่ Social Network อย่างเช่น Facebook นั้นได้เจริญเติบโตจนแทบจะเป็นเรื่องที่ทุกคนที่ใช้ชีวิตออนไลน์ต้องมีพอๆกับ e-mail แล้ว ยิ่งทำให้เห็นว่าเราน่าจะเห็นอะไรที่ใช้ประโยชน์จากมันได้มากยิ่งขึ้นในเร็ววันนี้

แนวคิดการค้าขายแบบ Group Buying หรือ Daily Deals นั้น หากลองดูจริงๆแล้วก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ในโลกนี้ แต่ก็มีคนทำกันสำเร็จจนเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในโลกได้ ซึ่งก็เป็นอีกบทพิสูจน์ว่า คุณไม่ต้องเป็นโปรแกรมเมอร์ที่เก่งที่สุดในโลก หรือไม่ต้องเป็นโปรแกรมเมอร์เลยก็ได้ แต่ขอให้มีไอเดียธุรกิจ และความสามารถในการบริหารธุรกิจ ก็สร้างปรากฏการณ์ได้

ไม่แน่ว่าคลื่นการค้าขายลูกใหม่อาจเกิดขึ้นจากประเทศไทยก็ได้นะครับ

เลอทัด ศุภดิลก

twitter: @lertad

e-mail: lertad@gmail.com

Up next 8 Outsourcing and Offshoring จากที่สมัยก่อนมีการถกเถียงกันอย่างมากในเรื่องของการมีบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ทำให้เกิดการไหลเวียนของเงินทองไปยังต่างประเทศ Recession vs. Depression and Management vs. Leadership การที่จะนำพาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ในช่วงที่เศรษฐกิจยังตั้งอยู่บนความสั่นคลอนอย่างเช่นทุกวันนี้ได้ย่อมต้องอาศัยทักษะความสามารถในการนำองค์กรเป็นอย่
Latest posts GDPR คืออะไร และส่งผลกระทบอะไรต่อธุรกิจ “Fintech” คืออะไร? ตอนที่ 1 - M-Pesa ตัวอย่างความสำเร็จของระบบการเงินดิจิตอล The New Disuptive Technologies: 2018 & Beyond การปรับกลยุทธ์ครั้งยิ่งใหญ่ ครั้งใหม่ของ Facebook Startup Tech Trends 2018 - เมื่อเทรนด์ 2017 จะแพร่หลายในปี 2018 “HQ Trivia” - The Future of TV เกมฮิตใหม่ที่อาจเป็นตัวอย่างของรายการทีวีในอนาคต Facebook Ads vs. Google Ads การต่อสู้ระหว่าง “Search” กับ “Discovery” Just Jack - Annabel’s Dilemma Bitcoin คืออะไร และทำไมมันถึงได้รับความสนใจ วิธีเริ่มต้นแบบเล็กๆของเหล่า Startup Unicorn มูลค่าพันล้าน The Fundamentals of AI - Machine Learning, Neural Network, Deep Learning - พื้นฐานแนวคิดของ “AI” ในยุคปัจจุบัน The WeChat Economy - มองเทรนด์ “Tech Startup” อนาคต จากการใช้ “WeChat” ในประเทศจีน การพลิกโฉม ”วิธีการซื้อ″ ด้วยนวัตกรรมจาก Amazon - How Amazon is Re-inventing How We Buy AliPay - เครื่องมือครองโลกของ Jack Ma ที่คุณอาจคาดไม่ถึง - Jack Ma’s Strategy to Conquer the World ทิศทางการเติบโตของ ”ห้างออนไลน์″ ในประเทศไทย - The Future of Marketplaces in Thailand Digital Transformation : จากการบริโภค Product สู่ Service Fast Growing Silicon Valley Startups 2017 - เทรนด์ Startup จาก Silicon Valley ที่จะมาแรงในปี 2017 การปฏิวัติข่าวสารจากยุค Google สู่ Facebook Status Seekers เมื่อผู้บริโภคต้องการ “สถานะ” มากยิ่งกว่า “การแก้ปัญหา” The Different Types of Conversational Commerce Online to Offline 31 The Future of Apps Pirate Metrics for Startups (AARRR) The Rise of Chat Bots E-commerce Delivery in Thailand Conversational Commerce Solar Energy Startups Facebook Thailand Startup = การเติบโตที่รวดเร็ว (Growth) Startup Investment The Future of Messaging